เมนู

อริยสาวกผู้ใด ย่อมเจริญด้วยศรัทธา
ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ทั้งสองฝ่าย
อริยสาวกผู้เช่นนั้น เป็นสัปบุรุษ มีปรีชา
เห็นประจักษ์ ชื่อว่าย่อมยึดถือสาระแห่ง
ตนในโลกนี้ไว้ได้ทีเดียว.

จบปฐมวัฑฒิสูตรที่ 3

อรรถกถาปฐมวัฑฒิสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในปฐมวัฑฒิสูตรที่ 3 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า วราทายี คือเป็นผู้ยึดเอาไว้ได้ซึ่งสาระอันสูงสุด. คำที่เหลือ
ในสูตรนี้และสูตรที่ 4 ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาปฐมวัฑฒิสูตรที่ 3

4. ทุติยวัฑฒิสูตร


ว่าด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ 5 ประการ


[64] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวิกาผู้เจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ
5 ประการ ชื่อว่าย่อมเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่าเป็น
ผู้ยึดถือสาระ และยึดถือสิ่งประเสริฐแห่งกาย ธรรมเป็นเหตุเจริญ 5 ประการ
เป็นไฉน คือ ย่อมเจริญด้วยศรัทธา ย่อมเจริญด้วยศีล ย่อมเจริญ
ด้วยสุตะ ย่อมเจริญด้วยจาคะ ย่อมเจริญด้วยปัญญา
ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย อริยสาวิกาผู้เจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ 5 ประการนี้แล ชื่อว่า
ย่อมเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่าเป็นผู้ยึดถือสาระ และ
ยึดถือสิ่งประเสริฐแห่งกาย.

อริยสาวิกาผู้ใด ย่อมเจริญด้วย
ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา
ทั้งสองฝ่าย อริยสาวิกาผู้เช่นนั้น เป็นผู้มี
ศีล เป็นอุบาสิกา ชื่อว่าย่อมยึดถือสาระ
แห่งตนในโลกนี้ไว้ได้ทีเดียว.

จบทุติยวัฑฒิสูตรที่ 4

5. สากัจฉสูตร


ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้ควรสนทนา 5 ประการ


[65] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการ
ย่อมเป็นผู้ควรสนทนาของเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ธรรม 5 ประการเป็นไฉน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยตน
เอง และเป็นผู้พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภสีลสัมปทาได้ 1 ย่อมเป็นผู้
ถึงพร้อมด้วยสมาธิด้วยตนเอง และเป็นผู้พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภ
สมาธิสัมปทาได้ 1 ย่อมเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาด้วยตนเอง และเป็นผู้
พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภปัญญาสัมปทาได้ 1 ย่อมเป็นผู้ถึงพร้อมด้วย
วิมุตติด้วยตนเอง และเป็นผู้พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภวิมุตติสัมปทา
ได้ 1 ย่อมเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสสนะด้วยตนเอง และเป็นผู้
พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภวินุตติญาณทัสสนสัมปทาได้ 1 ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรสนทนา
ของเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย.
จบสากัจฉสูตรที่ 5